ขอกราบสวัสดีทุกท่านอีกเช่นเคย วันนี้ Bright จะมารีวิว Notebook ที่เหมาะสำหรับคนที่ทำงานด้าน Content Creator อีกหนึ่งรุ่น จากที่ก่อนหน้านี้ผมเคยได้เลยรีวิวรุ่นพี่อย่าง Asus Zenbook Pro Duo ไปแล้ว แต่ก็ถือเป็นรุ่นที่เกินเอื้อมไปสักนิด แต่วันนี้ผมมีรุ่นน้องที่ความสามารถไม่แพ้กันเลย นั่นก็คือ Asus Zenbook Duo ที่สามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น แถมตอนนี้ได้อัพเกรดสเปคมาใช้ Intel Core i7 Gen 10 แล้วด้วย หลังจากที่ผมใช้งานมาสองอาทิตย์เต็ม จะได้ประสบการ์ณในการใช้งานอย่างไรบ้าง ใช้งานแล้วเป็นยังไง คุ้มค่าไหม มีข้อดี และข้อพิจารณาอะไรบ้าง เดี๋ยวผมพาไปชมพร้อมกันเลยครับ
-SPEC-
- หน้าจอหลัก IPS LCD ความละเอียด FHD (1920 x 1080) ขนาด 14 นิ้ว รองรับระบบสัมผัส
- หน้าจอที่สอง ScreenPad™Plus พาเนล IPS LCD ความละเอียด FHD ขนาด 12.6 นิ้ว
- CPU Intel Core i7-10510U
- GPU NVIDIA® GeForce® MX250 2GB GDDR5 VRAM
- Ram 16GB 2133MHz LPDDR3
- Storage 1TB PCIe x4 SSD
- Network Wi-Fi 6 Gig+ (802.11ax) และ Bluetooth 5.0
- Speaker ลำโพงแบบสเตอรีโอ ปรับแต่งเสียงโดย Harman Kardon
- มี USB 3.1 Gen 2 Type-C 1 ช่อง, USB 3.1 Gen 2 Type-A 1 ช่อง, USB 3.1 Gen 1 Type-A 1 ช่อง, HDMI 1 ช่อง, 3.5 mm. แบบ combo jack 1 ช่อง, MicroSD card reader 1 ช่อง และ DC-IN สำหรับชาร์จไฟ
- Battery 70Wh แบบ 4-cell
- Dimension 1.99 x 32.3 x 22.3 cm. / น้ำหนัก 1.5 kg.
- ราคา Core i7 40,990 บาท / Core i5 35,990 บาท
วาร์ปการสั่งซื้อ
- อุปกรณ์ในกล่อง -
- ซองหนังอย่างดีเอาไว้สำหรับใส่ตัวโน้ตบุ๊ค
- AC to DC Adapter สำหรับชาร์จไฟ ขนาด 65 Watt 19V-3.42A
- ASUS ZenBook Duo
- ปากกา Stylus
- คู่มือการใช้งาน และรายละเอียดการรับประกัน
- ลัดเลาะรอบเครื่อง -
ส่วนหน้าจอที่สองเรียกว่า Screen Pad+ เป็นหน้าจอ IPS ความละเอียด FHD ตัวกระจกมีการเคลือบวัสดุผิวแบบด้านทำให้ลดแสงสะท้อนบนหน้าจอ และทำให้สัมผัสได้ไหลลื่นไม่จับรอยนิ้วมือ รองรับการใช้งานปากกา Stylus ที่ให้มา โดยสามารถทำการแบ่งหน้าจอ บนหน้าจอนี้ได้มากถึง 3 หน้า แถมยังมีฟังก์ชั่นที่มีประโยชน์อีกมากมาย
ส่วนที่เป็น TouchPad ก็รู้สึกค่อนข้างเล็กไปสักนิดนึง ใช้งานได้ลำบากไปหน่อย ถ้าต่อเมาส์แยกน่าจะสะดวกในการใช้งานมากกว่า หรือใช้งานด้วยการสัมผัสหน้าจอเป็นหลักก็จะสะดวกไปเลยในการใช้งาน
คีย์บอร์ดออกแบบดีไซน์ย้ายมาอยู่ด้านล่าง และด้านขวาของ Keyboard จะมี TouchPad มาให้ได้ใช้งานกัน จากที่ได้ใช้งานคีย์บอร์ดมี Layout ที่ค่อนข้างแปลก ๆ ไปสักนิดนึง โดยส่วนตัวใช้งานแรก ๆ อาจจะยังไม่ค่อยชิน ไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ ต้องใช้เวลาเรียนรู้ไปสักพักถึงจะใช้งานได้คล่อง
มาพร้อมดีไซน์บานพับแบบ ErgoLift ที่เวลาเปิดเครื่องแล้วเครื่องจะยกระดับขึ้น ช่วยในการระบายความร้อน และช่วยให้ไม่ปวดข้อมือในการพิมพ์ และยังช่วยยกระดับหน้าจอขึ้นทำให้อยู่ในระดับสายตา ไม่ต้องก้มจนปวดต้นคอ ไม่พอเมื่อใช้แผ่นยกระดับตัวเครื่องที่แถมมาให้ก็จะสูงขึ้นอีก
ในส่วนของกล้องหน้า ก็มี IR Camera ที่ทำให้เราสามารถปลดล็อกตัวเครื่องด้วย Windows Hello ได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น และสามารถปลดล็อกตัวเครื่องได้แม้อยู่ในที่มืด
ปากกาสามารถใช้งานกับทั้งสองหน้าจอได้อย่างดี เขียนได้ไหลลื่น สามารถเอาไว้ร่างภาพ ทำงานกราฟิก หรือเซ็นเอกสารก็ได้เช่นกัน โดยด้านข้างของปากกาจะมีปุ่มมาให้สองปุ่มเป็นฟังก์ชั่นสำหรับสั่งการเพิ่มเติม เช่น คลิ๊กขวา เป็นต้น
ASUS Zenbook Duo รองรับการใช้งาน Wi-Fi 6 Gig+ ตามมาตราฐาน 802.11 AX เมื่อใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ Network ที่รองรับจะได้ประสบการ์ณ Wireless Network ระดับ Gigabit กันเลยทีเดียว
นอกจากจะใช้การยกตัวเครื่องเพื่อช่วยในการระบายความร้อนแล้ว ยังมาพร้อมกับช่องระบายความร้อนด้านหลังขนาดใหญ่อีกด้วย
พอร์ตการเชื่อมต่อ ฝั่งด้านขวาของตัวเครื่องมี USB 3.1 Gen 1 Type-A 1 ช่อง, ช่อง 3.5 mm. แบบ combo jack 1 ช่อง, ตัวอ่าน MicroSD card 1 ช่อง
พอร์ตการเชื่อมต่อ ฝั่งด้านซ้ายของตัวเครื่องมี USB 3.1 Gen 2 Type-C 1 ช่อง, USB 3.1 Gen 2 Type-A 1 ช่อง, HDMI 1 ช่อง และ DC-IN สำหรับชาร์จไฟ
เรื่องของการดีไซน์ ถ้าเอาไปวางร้านกาแฟ ทุกคนคงต้องมองแน่ ๆ ว่า Notebook อะไรเนี่ยมีสองจอเท่สุด ๆ ไปเลย
- ประสิทธิภาพ -
SSD ที่ให้มา 1TB ก็เป็นแบบ PCIe M.2 แรงไม่ใช่เล่น เขียนอยู่ที่ 1,565 MB/s อ่านอยู่ที่ 738 MB/s ในการใช้งานจริงเวลาเปิดโปรแกรมอะไรก็ลื่นไหนดี ตามสไตล์ SSD สมัยนี้ เขียนอ่านไฟล์ไวมากจะถ่ายโอนข้อมูลในเครื่อง หรือเปิดโปรแกรมต่าง ๆ ในเครื่องก็สบาย ๆ
การทดสอบ Benchmark ด้วย Cinebench R20 ด้านของการประมวลผลก็อยู่ที่ 1,668 คะแนน เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปประจำวัน จนถึงทำงานจริงจังขึ้นมาหน่อยก็เอาอยู่
- อุณหภูมิ -
รุ่นนี้เท่านี้ได้ใช้งานเป็น Notebook จะจัดการเรื่องของการระบายความร้อนได้ดีมาก ๆ แม้ใช้งานหนักก็ไม่ถึง 100 องศาแน่นอน ถึงแม้เครื่องจะมีความหนาไม่มากก็ตาม
- แบตเตอรี่ -
เท่าที่ลองใช้งาน สามารถใช้งานโดยเปิดโหมดประหยัดพลังงานใช้งานได้ประมาณ 10 ชม. ถือว่าอึดไม่ใช้น้อยสำหรับ Notebook ตัวนี้
- สรุป -
หลังจากที่ Bright ได้ใช้งานเจ้า Zenbook Duo โมเดล Core i7 Gen 10 / RAM 16 GB / SSD 1TB ผมว่ามันเป็น Notebook ที่เหมาะกับคนที่ชื่นชอบการใช้งานแบบ Multitasking สุด ๆ เพราะสามารถแบ่งหน้าจอได้มาก สามารถช่วยให้ Workflow การทำงานของคุณทำได้ไวขึ้น เหมาะกับคนที่อยากได้ Notebook ไว้ใช้ทำงานจริงจัง มีฟังก์ชั่นในการใช้งานที่ตอบโจทย์ในการสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ มากมาย แถมมีพลังเหลือเฟือในการทำงานจริงจัง ที่เรายังสามารถพกพาไปไหนมาไหนได้ด้วยขนาด 14 นิ้ว ใช้งานได้หลากหลายฟังก์ชันด้วยหน้าจอสัมผัส และปากกา Stylus ที่รองรับการใช้งานทั้งสองหน้าจอเลย เหมาะสำหรับคนที่ใช้ทำงานจริงจัง แต่ยังต้องการเคลื่อนย้ายได้ไม่ลำบากนัก ถ้าใครที่ต้องการซื้อใช้ไปทำงานที่หลากหลายอยู่แล้ว และมีงบประมาณอยู่พอสมควร เจ้า Zenbook Duo ตัวนี้ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เอาไป Creative ผลงานออกมาได้อีกมากมาย ถ้าให้สรุปง่าย ๆ เจ้า Zenbook Duo เป็น Notebook ที่เหมาะสำหรับการทำงานจริงจังที่ยังพกพาได้ สเปค และฟังก์ชันการทำงาน คุ้มเม็ดเงินที่จ่ายไปแน่นอน
จุดเด่น
- หน้าจอขอบบาง 14 นิ้ว ใช้พาเนล IPS ความละเอียด FHD แสดงสีสันได้ดี รองรับขอบเขตสีกว้าง
- มีหน้าจอที่สอง ScreenPad+ ที่ช่วยให้ทำงานแบบ Multitasking ได้มาก สามารถใช้สำหรับควบคุมการทำงานต่าง ๆ และแสดงผลข้อมูลได้ได้มากกว่าที่เคย
- สเปคจัดเต็ม เหลือเฟือในการทำงาน ทั้ง Intel Core i7-10510U อันทรงพลัง + NVIDIA® GeForce® MX250 2GB GDDR5 VRAM แถมยังให้ Ram มาถึง 16GB และ SSD แบบ Nvme M.2 ถึง 1TB จากโรงงาน มีความเร็วการอ่าน/เขียนสูง
- ลำโพงคู่ที่จูนเสียงโดย Harman Kardon ให้มิติเสียงที่ดี
- รองรับการใช้งาน ปากกา Stylus มีแถมมาให้ในกล่องเลยไม่ต้องซื้อแยก
- ดีไซน์บานพับแบบ ErgoLift ที่เวลาเปิดเครื่องแล้วตัวเครื่องจะยกระดับขึ้น ช่วยในการระบายความร้อน และช่วยให้ไม่ปวดข้อมือในการพิมพ์ แถมยังยกระดับหน้าจอขึ้นทำให้อยู่ในระดับสายตาไม่ปวดต้นคอ
- ระบบระบายความร้อนดี แม้ตัวเครื่องจะบาง
- มีกล้อง IR Camera ช่วยในการใช้งานร่วมกับ Windows Hello มีประสิทธิภาพที่ดี อยู่ในที่มืดก็ปลดล็อกได้
- รองรับ Wi-Fi 6 Gig+ (802.11ax)
ข้อพิจารณา
- TouchPad มีขนาดเล็กไปใช้งานลำบาก
- Arrow Key ใช้งานลำบาก และไม่มี NumKey มาให้
0 ความคิดเห็น